Home » PR NEWS » ศิลปินดารา วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ร่วมให้กําลังใจผู้ป่วย ในงานปาฏิหาริย์ เปลี่ยนมะเร็ง ให้เป็นสุข – Miracle is all around ครั้งที่ 10 หรือ Miracle X เนื่องใน “วันมะเร็งต่อมน้ําเหลืองโลก”

ศิลปินดารา วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ร่วมให้กําลังใจผู้ป่วย ในงานปาฏิหาริย์ เปลี่ยนมะเร็ง ให้เป็นสุข – Miracle is all around ครั้งที่ 10 หรือ Miracle X เนื่องใน “วันมะเร็งต่อมน้ําเหลืองโลก”

Share

ศิลปินดารา วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ร่วมให้กําลังใจผู้ป่วย ในงานปาฏิหาริย์ เปลี่ยนมะเร็ง ให้เป็นสุข – Miracle is all around ครั้งที่ 10 หรือ Miracle X เนื่องใน “วันมะเร็งต่อมน้ําเหลืองโลก”

ชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ําเหลืองแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรม เสวนา ปาฏิหาริย์ เปลี่ยนมะเร็ง ให้เป็นสุข – Miracle is all around ครั้งที่ 10 หรือ Miracle X เพื่อรณรงค์เนื่องใน “วันมะเร็งต่อมน้ําเหลืองโลก” วันที่ 15 กันยายนของทุกปี ให้ ความรู้ด้านนวัตกรรมการรักษาแก่ผู้ป่วย การรักษาด้วย ยาพุ่งเป้า (Targeted Therapy) กลุ่ม Bi-specific Antibody และ การรักษาด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกันบําบัด CAR-T Cell ความหวังใหม่ของผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ําเหลืองกลุ่มที่ไม่สามารถทํา Stem cell transplantation มาจุดพลังใจไปกับอดีตผู้ป่วย “The X Fighters : รวมพล…คนสู้โรค” พร้อมด้วย ศิลปิน ดารา โดย วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร กับกิจกรรมร่วมให้กําลังใจผู้ป่วย ณ โซน Eden ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีผู้ป่วย และผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานจํานวนมาก

ศ.นพ.ธานินทร์ อินทรกำธรชัย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถึงแม้โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะพบมากขึ้นในทุก ๆ กลุ่มวัย แต่ก็เป็นโรคมะเร็งเพียงไม่กี่ชนิดที่มีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ จึงอยากให้ผู้ป่วยมีขวัญ และกำลังใจที่ดีเพื่อที่จะมีกำลังใจต่อสู้กับโรคได้

ที่ผ่านมาแนวทางการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองสำหรับผู้ป่วยรายใหม่จะใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับ ยาพุ่งเป้า (Targeted Therapy) กลุ่ม Monoclonal Antibody และหากพูดในแง่ผลการรักษา โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองถือเป็นมะเร็งที่ตอบสนองกับการรักษาได้ดี และมีโอกาสหายขาดสูงถึงแม้จะตรวจพบในระยะ 3 หรือ 4 อย่างไรก็ตามจะมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งคิดเป็นประมาณ 40% ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาขนานแรก แนวทางการรักษามาตรฐานขั้นถัดไป คือ การทํา stem cell transplantation ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับผู้ป่วยที่ร่างกายมีความพร้อม และอายุไม่เกิน 65 ปี เนื่องจากมีการใช้ยาเคมีบําบัดในขนาดสูงร่วมด้วย ปัจจุบันมีทางเลือกของนวัตกรรมการรักษาที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาด้วยการทำ Stem Cell Transplantation ได้แก่ การรักษาด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัด (CAR-T Cell) หรือ Targeted Therapy กลุ่มใหม่ ๆ เช่น Bi-Specific Antibody (ที่กำลังจะมีเข้ามาในประเทศไทย) หรือ กลุ่ม Antibody-Drug Conjugate ร่วมกับ Chemotherapy ซึ่งให้ผลการรักษาดีในระดับที่น่าพอใจ

การรักษาที่เรียกว่า CAR-T Cell (Chimeric Antigen Receptor T Cell) ด้วย T Cell เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ที่เป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน มีหน้าที่ทำลายสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ซึ่งการรักษาที่เรียกว่า CAR-T Cell เป็นเทคนิคการรักษามะเร็งเฉพาะบุคคลเพื่อให้การรักษามะเร็งระบบเลือดโดยเฉพาะ โดยแพทย์จะเก็บเซลล์ T Cell จากเลือดของผู้ป่วย เพื่อนำไปปรับแต่งเซลล์ในห้องปฏิบัติการ จนได้ออกมาเป็น Chimeric Antigen Receptor (CAR) หรือตัวรับแอนติเจนที่มีพันธุกรรมดัดแปลง ทำให้ T Cell สามารถตรวจจับเซลล์มะเร็งชนิดใดชนิดหนึ่งได้ เมื่อฉีด CAR-T Cellsกลับเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยมะเร็ง จะสามารถทำลายเซลล์มะเร็งชนิดนั้นได้ และ CAR-T Cell จะมีการเจริญเติบโตแบ่งตัวเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสามารถอยู่ในร่างกาย และทำให้สามารถควบคุมเซลล์มะเร็ง และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ทั้งนี้ การศึกษาวิจัย นวัตกรรม CAR-T Cell จะใช้ในกลุ่มคนไข้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอื่น หรือในกลุ่มของคนไข้ที่มีโอกาสกลับเป็นซ้ำ และไม่สามารถรักษาแบบอื่นได้ผลแล้ว และต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาแบบประคับประคอง ก็จะเป็นผู้ที่มารับการรักษาด้วย CAR-T Cell โดยพบว่ากลุ่มนี้เมื่อได้รับ CAR-T Cell แล้วจะพบว่ามีโอกาสหาย 50-70% และไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง

อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วย CAR-T Cell มีข้อจำกัดในเรื่องของ (1) ระยะเวลาทั้งหมดที่ต้องใช้ (ประมาณ 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ) ตั้งแต่เริ่มเตรียมตัวผู้ป่วย กระบวนการผลิต และการพักฟื้นในโรงพยาบาลหลังได้รับ CAR-T Cell เพื่อประเมินการตอบสนอง และติดตามภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด (2) กำลังผลิตในประเทศที่ไม่สูงทำให้ระยะรอคอยเพิ่มขึ้น จากข้อจำกัดข้างต้นของ CAR-T Cell ทำให้ ยา Targeted Therapy กลุ่ม Bi-specific Antibody ซึ่งเป็นยานวัตกรรมใหม่ จะมีบทบาทค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นยาที่พร้อมใช้งาน อีกทั้งในด้านประสิทธิภาพพบว่ามีโอกาสหายขาดจากโรคประมาณ 40-60% และมีผลข้างเคียงที่สามารถจัดการได้ อีกทั้งยา Bi-specific Antibody บางกลุ่มยังเป็นแบบ Fixed dose ทำให้สามารถคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการรักษาได้

 

จุดพลังใจไปกับเรื่องเล่าของชาว X-Patient คนสู้โรคมะเร็ง

นอกจากนี้ภายในงานยังพบกับเรื่องราว ผู้ป่วย ‘สู้มะเร็งต่อมน้ำเหลือง คุณภัคธินันท์ อัครลักษมีพัชร หรือ พลอย อายุ 30 ปี เมื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2566 สามารถคลำได้ก้อนซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เพราะเหมือนฝังอยู่ภายในไหปลาร้าขนาดประมาณ 3 ซม. ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 4 เพราะเซลล์มะเร็งได้ลามไปที่กระดูกขา หลัง และสะโพกแล้ว ขั้นตอนการรักษา เริ่มยาเคมีบำบัดและยาพุ่งเป้ารวมทั้ง 12 ครั้ง ผลการตอบสนองของยา ช่วงแรกๆ ผลออกมาดีมาก ก้อนยุบเกือบหมด ดูแล้วการรักษาน่าจะเป็นไปในทางที่ดี  แต่แล้วเมื่อจบคอร์สเคมีบำบัด มีการแสกนอีกครั้ง พบว่าก้อนมะเร็งที่เคยยุบเหลือ 2 ซม. โตขึ้นกว่าเดิมเป็น 7 ซม. และมีก้อนมะเร็งตำแหน่งใหม่ที่เพิ่มขึ้นอีก 2-3 จุด บริเวณคอ คุณหมอบอกว่าด้วยความที่เป็นระยะ 4 และระยะโรคมาค่อนข้างไกลแล้ว เลยอาจจะมีภาวะดื้อยาได้ จึงต้องมีการฉายแสงต่ออีก 20 ครั้ง ระหว่างการรักษา ผลข้างเคียงมีบ้าง แต่ค่อยๆ ดีขึ้น

 

“ ปัจจุบันผลการรักษาออกมาดีขึ้น แต่ต้องมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิดต่อไปทุก 3 เดือน เนื่องจากโรคสามารถกลับมาได้ทุกเมื่อ ต้องขอบคุณน้องมะเร็งมากๆ ที่เข้ามาในชีวิตพลอย เพราะเค้าทำให้พลอยได้รู้จักคุณค่าของคำว่าปัจจุบัน ได้เห็นความสุขเล็กๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ได้ตื่นมาเห็นหน้าลูก ได้หัวเราะกับลูกก็ถือเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของพลอยแล้ว สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับโรคมะเร็งอยู่ พลอยอยากจะขอฝากคำพูดของคุณหมอของพลอยคุณหมอ อาจรบ คูหาภินันท์ ไว้เป็นกำลังใจให้ทุกคนมีแรงกายแรงใจที่จะสู้กับโรคต่อไปนะคะ แม้ถนนมันจะขรุขระ แต่อย่างน้อย มันยังมีทางให้เดิน คำพูดนี้พลอยยังจำได้เสมอ และเตือนใจตัวเองให้มีกำลังใจตลอดช่วงเวลาการรักษา” คุณพลอยกล่าว

 

คุณธนัญญนันทน์ สิริวาสนะประภา หรือ นิม อายุ 42 ตรวจเจอโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะ 4 Diffuse Large B-Cell lymphoma ซึ่งเป็นตัวที่ดุและรุนแรงที่สุด ลุกลามไวมาก เจอก้อนเนื้อขนาด 4.4×8.9×12.2 อยู่ตรงกลางหน้าอก และมีก้อนอื่นๆ กระจายอยู่ส่วนบนอีกจำนวนมาก อย่างเช่นคอ ไหปลาร้า รักแร้ ใต้กระบังลม อาการเริ่มต้นที่ไปตรวจมีอาการไอต่อเนื่องมาหนึ่งเดือน และคันผิวเหมือนผิวแห้งๆ แล้ววันที่ไปตรวจมีอาการคอบวมร่วมด้วย หลังจากได้ทำ CT Scan

 

การรักษาสำหรับตัวโรคนี้ต้องรีบให้ยาโดยด่วน เพราะตอนนั้นหน้าเริ่มบวมคอเริ่มบวมหายใจ ไม่ค่อยดีแล้ว แผนการรักษาคือให้เคมีบำบัด 6 Cycle ครั้งละ 5 วัน 4 คืน และฉายแสงร่วมด้วย ยาที่ได้มี Rituximab / Etoposide / Doxorubicin / Vincristine / Cyclophosphamid ผ่านการให้ยามา 3 ครั้งคุณหมอ PET Scan ไม่เห็นตัวโรคในผลเอ็กซเรย์แล้ว ซึ่งยาตอบโจทย์กับตัวโรคมาก แต่ก็ยังต้องให้ยาจนครบ 6 ครั้ง และฉายแสงร่วมด้วยอีก 20 ครั้ง

“ตลอดเวลาที่รักษาไม่มีการติดเชื้อหรือเลื่อนการรักษาเพราะตัวเราเองปฏิบัติตามที่หมอบอกอย่างเคร่งครัด อดทนสู้กับคีโมที่ใครๆก็พูดว่าสูตรนี้คือหนักมาก แต่นิมก็สู้ผ่านมาได้แล้ว นิมใช้เวลารักษาตัว 5เดือน5วัน หลังจากนี้ก็ฟอลโล่ตามคุณหมอนัดการเป็นโรคมะเร็งในครั้งนี้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีค่ามากขึ้น  การที่เราได้แชร์ประสบการณ์การเป็นมะเร็งผ่านสื่อโซเชียล และทำให้ผู้ป่วยด้วยกันมีกำลังใจในการรักษา จากนี้ไปจะใช้ชีวิตอย่างดีที่สุดค่ะ” คุณนิมกล่าว

 

คุณจิรวรรณ มะโนรมณ์ หรือ จิ๊บ เริ่มจากมีอาการไข้เรื้อรัง 19-20 วัน ตับและ ม้ามโต โดยไม่มีสาเหตุ และผลตรวจออกมาเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิด Intravascular ทั่วโลกมีคนเป็นน้อยมาก และลำไส้บวม ในระหว่างให้คีโม 6 รอบ หลังให้คีโม พอจบคีโม ผล PET Scan ดีมาก โรคสงบ แต่เจอจุดในสมอง 4 จุด ใน ผล MRI ต้องขอบคุณคุณหมอที่ตรวจได้ละเอียด

 

“เราเริ่มดิ่งอีกครั้ง เมื่อมะเร็งลามไปยังสมอง คุณหมอจึงให้คีโมที่เข้าสมองอีกครั้ง แต่ยาไม่ตอบสนอง จนต้องเจาะเอาชิ้นเนื้อจากสมองมาตรวจและฉายแสง ก้อนจึงเล็กลง อาการดีขึ้น สุดท้ายได้มาทำ CAR-T Cell ที่ โดยใช้ T-Cell จากน้องสาวคนสุดท้อง ที่แมตซ์กัน 100% ปัจจุบันโรคสงบมา 4-5 เดือน มุมมองหลังป่วย สมัยก่อนจะเป็นคนที่มีความสุขเมื่อชีวิตดี ก้าวหน้า  พอป่วยมา วันธรรมดาที่ กินได้ไม่อาเจียน มีแรงมันคือวันที่ดี มีความสุขมากๆ แล้วจริงๆ เราขอเป็นตัวแทนของคนป่วยที่จิตใจไม่ได้เข้มแข็ง แต่อดทนผ่านวันเวลาที่ลำบากมาได้ แล้ววันธรรมดาที่แสนมีความสุขของเราก็จะมาถึง ในไม่ช้า” คุณจิ๊บกล่าว

นอกจากนี้ภายในงานดังกล่าวมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ พูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเจาะลึกถึงนวัตกรรมใหม่การ รักษาโรคมะเร็งต่อมน้ําเหลือง ถาม-ตอบ กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ําเหลืองในปัจจุบัน มาจุดพลัง ใจไปกับอดีตผู้ป่วย “The X Fighters : คนสู้โรค” ที่หายจากโรคมะเร็งต่อมน้ําเหลือง แรงบันดาลใจไม่สิ้นสุด “The X Team” โดย ชมรมผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ําเหลืองแห่งประเทศไทย

กิจกรรม Miracle X Art Toys จากศิลปินชื่อดัง อาทิ เช่น ก้องกาน, Poriin, THEJUM พร้อมกับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อม น้ําเหลือง และ Miracle X Encourage โดย วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร พร้อมกิจกรรม X Auction สุดพิเศษ ร่วมประมูล ของรัก โฟโต้รูบิค ของ วิน เมธวิน โดยน้องอิคคิว และ เลบรอน แฟมิลี่ เซียนรูบิค ทางชมรมฯ และคุณวิน เมธวิน นํามาใช้ประมูลในงาน มูลค่า 25,000 บาท

WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com